วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

learning log 6 ในห้องเรียน

Learning  Log 6 (ในห้องเรียน)
                ในการสร้างประโยคแต่ละครั้งไม่ใช่ว่าเราต้องการจะสร้างแล้วสร้างได้เลย  แต่เราจะต้องพิจารณาหลายๆองค์ประกอบ  เช่น  Tense  หรือรูปแบบประโยค  การที่จะสร้างประโยคได้  ต้องเริ่มจากการรู้คำศัพท์  (Word) แล้วขยับมาเป็นวลี  Phrase  ต่อมาก็เพิ่มเป็น  อนุประโยค  Clause  และสุดท้ายก็เลื่อนขั้นไปเป็นระดับประโยค  ประโยคแต่ละประโยคอาจมีความสั้นยาวที่ต่างกัน  ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราว่า  ต้องการเน้นหรือขยายอะไรอย่างไร  โดยการใช้  Clause  หรือ  Phrase  เข้ามาช่วย
                จากการเรียนในห้องเรียน  คือ  เขียนเรื่อง  การทำ  Adjective  Clause  เป็น  Adjective  Phrase  หรือการลดรูป  ซึ่งมีความสอดคล้องที่จะต้องนำไปประยุกต์ใช้ในรายวาการแปล  เพื่อจะทำงานแปลให้มีคุณภาพและได้รายละเอียดครบถ้วนตามต้นฉบับ  บางคนอาจไม่เข้าใจการลดรูปของ  Adjective  Clause  จึงทำให้เวลาที่แปลงาน  ผลงานอาจะออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร  โดยก่อนจะเริ่มลดรูปของ  Adjective  Clause  เป็น  Adjective  Phrase  ผมจะเริ่ม (ถ่ายมาไม่ครบ)
                Adjective  Clause  คือ   Subordinate  Clause  ที่ทำหน้าที่  เหมือนกับคำ  Adjective    ที่ขยายคำนามและสรรพนาม  บางครั้งอาจเรียก  Relative  Clause  โดยจะใช้  คำ  Relative  Pronoun  มาเชื่อมประโยค  Subordinate  Clause  เข้ากับ  ประโยค  Main  Clause  โดยใช้  Who  ,  Whom  ,  Whose  ,  That  กับคน  และใช้  Adjective  Clause  ขยายคำนามหรือสรรพนามใด  ให้วางประโยค  Relative  Clause  ไว้หลังประโยคนั้นทันที  และใช้ Relative  Pronoun  แทนคำนามหรือคำสรรพนาม  ในประโยคโดยตัดคำนามหรือสรรพนามที่ใช้แทนออกไป  เช่น  John  married  a  women  who  works  in  his  office.
                Adjective  Clause    สามารถแบ่งออกได้เป็น  ชนิด  คือ  ชนิดแรกคือ  Defining  relative  clause  หรือ  Restrictive  clause  ซึ่งจะทำหน้าที่ขยายคำนาม  หรือ สรรพนามที่เป็น  head  word  ของประโยค  Main  Clause  โดยไม่ใส่  Comma (,)  เพราะถ้าตัดออกจะทำให้ความหมายของประโยคหลักไม่สมบูรณ์  และอีกชนิดคือ  Non- Defining  relative  clause  หรือ  Nonrestrictive  clause  จะวางไว้หลังคำนาม  หรือสรรพนามหลักของประโยค  Main  Clause  ซึ่งคำนามนั้นมีความหมายสมบูรณ์ในตัวของมันเองอยู่แล้ว  ดังนั้น  จะใส่  Comma (,)  คั้นกลางคำนามหลักเพื่อเป็นการเพิ่มข้อมูลของคำนามหลักเท่านั้น
                ส่วน  Adjective  Phrase  หรือ  คำคุณศัพท์วลี  ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์  หรือ  Adjective  เพื่ออธิบายหรือขยายลักษณะของคำนามหรือคำสรรพนามใช้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น  ส่วนตำแหน่งการวาง  อาจอยู่ก่อนคำนาม  หรืออยู่หลังคำนาม  หรืออาจทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็ม  ของ  Linking  Verb  หรือ  ส่วนเติมเต็มของกรรม  และบางครั้งที่เราเห็นเป็น  Adjective  Phrase    อาจมาจาก  Adjective  Clause  โดยการลดรูป
                การลกรูปของ  Adjective  Clause  ใช้เป็น  Adjective  Phrase    สามารถทำได้  2  วิธี  คือ  วิธีแรก  การเอาประธาน  เช่น  Which  ,  that  หรือ  Who    และ  Verb  to  be  เช่น  The  books  , which  are  lost  ,  are  not  really  necessary.  เป็น  The  books  lost  are  not  really  necessary. และอีกวิธีหนึ่งคือ  การเอาประธานออกแล้วเปลี่ยนกริยาแก้เป็น  V.ing  เช่น  Something  that  smells  bad  may  be  roften.  เป็น  Something  smelling  bad  may  be  roften.
                ดังนั้น  การที่เราจะแปลผลงานให้มีคุณภาพดี  เราจะต้องถอดข้อมูลออกมาให้ครบสมบูรณ์จากต้นฉบับ  และต้องเป็นคนที่ละเอียดอ่อน  และช่างสังเกตเหมือน เช่น  การลดรูป  ของ  Adjective  Clause  เป็น  Adjective  Phrase    เราจะต้องแปลออกมาทั้งหมดไม่ใช้แปลเฉพาะรูปที่ย่อมาแล้วซึ่งไม่ใช่แค่เราจะได้ฝึกแต่เพียงทักษะภาษาอังกฤษแต่เรายังได้ฝึกฝนการคิดการพิจารณา  ซึ่งสามารถบูรณาการกันอย่างสมบูรณ์






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น