วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

งานแปล Alice's adventures in wonderland

การผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์ของอลิซ
Down the rabbit-hole
สู่โพรงของกระต่าย
                อลิซเริ่มรู้สึกเบื่อมาก  เธอและพี่สาวกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้  พี่สาวของเธอกำลังอ่านหนังสือ  แต่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย  ครั้งแล้วครั้งเล่าที่หล่อนมองลงไปในหนังสือของพี่สาว  แต่มันไม่มีแม้แต่รูปภาพหรือการสนทนาอยู่ในนั้น  อะไรคือสิ่งที่ใช้ในหนังสือ,ไม่มีรูปภาพไม่มีการสนทนา  อลิซคิด  หล่อนรู้สึกเหนื่อยที่คิดจะทำบางสิ่ง  มันเป็นวันแสนจะเร่าร้อน  หล่อนรู้สึกง่วงนอนและมึนงง  หล่อนยังคงนั่งและคิดเรื่อยเปื่อย  ทันใดนั้นกระต่ายสีขาวตาสีชมพูตัวหนึ่งวิ่งผ่านเธอ  การมองกระต่ายไม่ได้มีอะไรแปลกสำหรับเธอและไม่รู้สึกประหลาดใจ  และเมื่อกระต่ายพูดว่า  ไอ้ที่รักฉันจะช้าลง  (บางทีมันอาจเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดเล็กน้อย,อลิซคิด,ในเวลานั้นหล่อนก็ไม่รู้สึกแปลกใจ)  แต่แล้วเมื่อกระต่ายเอานาฬิกาออกมาจากกระเป๋าของมัน,มองมาที่มัน,รีบขึ้นมา  เท้าของเธอกระโดดขึ้นพริบตา
                ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนกระต่ายที่มีกระเป๋าหรือนาฬิกาที่ออกมาจากมัน  “อลิชคิด”  และหล่อนก็วิ่งไปข้างหลังของกระต่ายผ่านทุ่งหญ้าอย่างรวดเร็ว  หล่อนไม่หยุดที่จะคิด  และเมื่อกระต่ายวิ่งลงไปในโพรงใหม่  อลิซก็ตามมันลงไปทันที  เมื่อลงไปในโพรงของกระต่ายจะมีทางเล็กๆลึกลงไปจากพื้นดิน  เธอไม่สามารถหยุดตัวเองได้  จึงตกลงไปด้วย  มันเป็นโพรงที่ประหลาดมาก  อลิซตกลงไปอย่างช้าๆ  และมีเวลาสำหรับคิดและมองรอบๆตัว  เธอจะได้เห็นอะไรข้างล่างเธอ  เพราะมันมืดมาก  แต่เมื่อหล่อนมองด้านข้างของโพรง,หล่อนสามารถมองเห็นตู้,หนังสือ  และรูปภาพบนผนัง  หล่อนมีเวลาที่จะจับต้องสิ่งของบนตู้  และจำพวกมันในชิ้นที่ต่ำลงมา  “มันดีมาก”  อลิซคิด  ฉันสามารถจะตกอยู่ทุกหนทุกแห่ง  ฉันสามารถตกลงไปชั้นล่างของบ้าน  และฉันไม่ต้องการตะโกนหรือพูดเกี่ยวกับมัน  อีกไกลแค่ไหนที่ฉันจะต้องตกลงไป  “อลิซพูดกับตัวเองเบาๆ”  บางทีฉันอาจจะอยู่ศูนย์กลางของโลกแล้วก็ได้  (4,000  ไมล์)  หล่อนตกลงไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุด  รู้สึกเหมือนจะหลับ  ทันใดนั้นหล่อนก็ตกลงมานั่งลงบนพื้น  หล่อนมองกระต่ายสีขาว  ตัวที่ถามว่า  แล้วมันพูดกับตัวมันว่า  “ไอ้หูและหนวดของฉัน”  อลิซวิ่งตามหลังเขาราวกับลม  เขาเริ่มเข้าใกล้เรื่อยๆ  ทันใดนั้นเขาก็กลับไปยังมุม  แล้วอลิซก็วิ่งตามไปด้วย  เมื่อเธอหยุดหล่อนเห็นห้องยาวในความมืด  ผนังห้องมีประตูอยู่รอบ  และเขามองไม่เห็นกระต่ายสีขาวทุกแห่ง
               
หล่อนพยายามที่จะเปิดประตู  แต่ประตูทั้งหมดถูกล็อก  ทำอย่างไรจึงจะออกไปได้อีกครั้ง  อลิซคิดอย่างเศร้าๆ  ทันใดนั้นหล่อนได้ยินเสียง เศษแก้วบนโต๊ะ  3  ขา  และ  บนนั้นมีกุญแจสีทองเล็กๆวางอยู่  หล่อนรีบเข้าไปเอากุญแจและพยายามไขประตูทุกบาน  แต่ล็อคมันใหญ่เกินไป  แต่กุญแจเล็ก  หล่อนไม่สามารถเปิดประตูได้เลย  ทันใดนั้นหล่อนเห็นประตูอีกบาน  ซึ่งสูงเพียง  40  เซนติเมตร  กุญแจสีทองไม่สามารถไขได้ง่ายๆ  หล่อนไม่สามารถผ่านมันไป  ดังนั้น  หล่อนจึงนอนลงบนนั้น  แล้วมองประตูผ่านออกไป  ตรงไปยังสายที่สวยงาม  เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวและดอกไม้สีฉูดฉาด  หล่อนรู้สึกไม่มีความสุข  แล้วพูดกับตัวเองว่า  “อะไรคือสวนที่ดีเยี่ยม”  ฉันไม่ชอบที่นี่  (มันไม่ใช่ห้องแห่งความมืด)  มันเป็นวันที่แปลกมาก  และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดของอลิซว่า  ทุกสิ่งเป็นไปได้
                หลังจากนั้นหล่อนล็อคประตูอีกครั้ง  ลุกขึ้นและกลับไปยังโต๊ะ  หล่อนวางกุญแจลงและเหลือบไปเห็นกล่องเล็กๆวางอยู่บนโต๊ะ  หล่อนแน่ใจว่ามันไม่อยู่ที่นี่มาก่อน  รอบๆนั้นมีกระดาษหนึ่งชิ้น  เขียนว่า  “ดื่มฉัน”  แต่อลิซเป็นผู้หญิงที่รอบคอบ  มันสามารถทำอันตรายฉันได้ฉากฉันดื่มกล่องแปลกๆนี้  “เธอพูด”  สิ่งที่จะทำกับฉัน  หล่อนค่อยๆดื่มมันทีละนิดอย่างช้าๆ  รสชาติของมันค่อนข้างดี  เหมือนกับกาแฟร้อนๆหวานๆผสมส้มกับช็อคโกแลตและหล่อนก็ดื่มหมด  มันรู้สึกแปลกๆ  “อลิสพูด”  ฉันคิดว่าฉันกำลังจะมีขนาดที่เล็กและเล็กลงไปเรื่อยๆ  ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น  เขาก็สูงเพียง  25  เซนติเมตร  เท่านั้น  ตอนนี้เขาพูดอย่างไม่มีความสุขว่า  ฉันจะต้องผ่านประตูนี้ไปยังสวนที่แสนสวยให้ได้  หล่อนวิ่งไปยังประตู  เมื่อหล่อนไปถึง  หล่อนจำได้ว่ากุญแจสีทองวางอยู่บนโต๊ะ  หล่อนจึงวิ่งไปที่โต๊ะอีกครั้ง  เพื่อเอามัน  แต่หล่อนตัวเล็กมาก  กุญแจก็อยู่สูงเหนือเขา  หล่อนพยายาปืนขึ้นทางขาโต๊ะอย่างตั้งใจ  แต่หล่อนก็ทำไม่สำเร็จ  หล่อนเหนื่อยแล้วนั่งลงบนพื้นและร้องไห้  แต่หลั่งจากนั้นหล่อนพูดกับตัวเองอย่างโกรธ  ว่า  “หยุดร้องไห้ซะ”  อะไรคือสิ่งที่ทำให้ฉันร้องไห้  หล่อนเป็นเด็กที่แปลกและชอบพูดกับตัวเองอยู่เสมอ  ในไม่ช้าหล่อนเห็นกล่องแก้วอยู่ข้างหล่อน  เธอเปิดมันแล้วพบว่า  มีเค้กชิ้นเล็กๆอยู่และมีคำว่า  “กินฉันสิ”  อยู่ด้วย  ไม่มีอะไรทำให้อลิซประหลาดใจ  ตอนนี้  “ดี”  ฉันจะกินมัน  หล่อนพูด  ถ้าฉันสูงขึ้น  ฉันจะสามารถเอากุญแจบนโต๊ะได้  ถ้าฉันเล็กลง  ฉันจะผ่านทางด้านล่างประตู  ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  ฉันต้องการลงไปในสวน  ดังนั้นมันไม่สำคัญว่าอะไรจะเกิดขึ้น  หล่อนกินเค้กก้อนเล็กนั้น  และวางมือลงบนหัวของเขา  แล้วหล่อนถามตัวเองว่า  “ทางใด,ทางใด”  กลัวเล็กน้อย  ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  นี่มันไม่มีอะไรประหลาดใจเลย  คนไม่ได้จะสูงหรือต่ำ  เมื่อพวกเขากินเค้ก  แต่  สิ่งที่แปลกประหลาดทั้งหลาย  คือ  ความสุขของอลิซในวันนี้  มันจะน่าเบื่อมาก  หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น  “หล่อนพูด  หล่อนจึงไปทานต่อ  และในไม่ช้าเค้กก็หมด

The  pool  of  tears 
(บ่อแห่งน้ำตา)
Curiouser  and  curiouser  “อลิซพูด”  (เธอรู้สึกประหลาดใจมากและนาทีนั้นเธอลืมวิธีพูดภาษาอังกฤษให้ดี)  “ฉันจะต้องสูงให้เท่ากับบ้านตอนนี้,อลิซพูด”  หล่อนเหนื่อยและนั่งมองลงดูเท้าของหล่อนและอาจจะมองเห็นพวกเขา  “ลาก่อนเท้า  อลิซพูด  ผู้ซึ่งสวมรองเท้าของคุณตอนนี้  โอ้  ที่รักคุณกำลังคิดอะไรไรสาระ”  ทันใดนั้นเธอเอาหัวเคาะกับผนังห้อง  ตอนนี้เธอสูงราว  3  เมตร  เร็วเข้า,เธอกุญแจสีทองอันเล็กจากโต๊ะและรีบไปยังประตูสวน  อลิซผู้ต้อยต่ำ+  เธอนั่งลงกับพื้นแล้วมองออกไปยังสวนด้วยตาข้างเดียว  หล่อนไม่สามารถเอาหัวออกผ่านประตูไปได้  หล่อนเริ่มร้องไห้อีกครั้งและเดินร้องไห้อยู่อย่างนั้น  น้ำตาร่วงลงจากหน้าของเธอ  และในไม่ช้าพวกมันก็กลายเป็นสระน้ำใหญ่บนพื้นรอบตัวเธอ  ทันใดนั้นหล่อนได้ยินเสียงและก็หยุดร้องไห้เพื่อจะฟังเสียงนั้น  “โอ้คุณหญิง,คุณหญิง!  หล่อนจะโกรธมาก!  หล่อนสาย  และหล่อนกำลังรอฉัน  ไอ้ที่รัก,ที่รัก
                มันเป็นกระต่ายขาวอีกครั้ง  เขารีบลงไปห้องยากกับถุงมือสีขาว  ในมือข้างหนึ่งและมืออีกหนึ่งถือพัดลมตัวใหญ่  อลิซรู้สึกกลัว,  หล่อนต้องการความช่วยเหลือ  หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ  โอ้ได้โปรด   กระต่ายกระโดดอย่างรีบเร่งจับถุงมือและพัดลม  และรีบออกไปอย่างรวดเร็วเท่าที่เขารีบได้
                อลิซเก็บถุงมือและพัดลมขึ้นมา  ห้องร้อนมาก  ดังนั้นหล่อนเริ่มพัดลมด้วยตัวเธอเองในขณะที่เธอพูด  ปัจจุบันมีวิธีแปลกๆที่จะเปลี่ยนในกลางคืน  วันนี้ฉันเป็นคนที่แตกต่าง  แต่ถ้าฉันเป็นคนที่แตกต่างทันใดนั้น  คำถามถัดไป  “ฉันเป็นใคร”  มันเป็นสิ่งที่ลึกลับเงื่อนงำ
                หล่อนเริ่มรู้สึกไม่มีความสุขอย่างมาก  แต่ทันใดนั้น  หล่อนเริ่มมองลงมาที่มือของเธอ  หล่อนสวมถุงมือกระต่ายสีขาวข้างหนึ่ง”  ทำอย่างไรให้ฉันได้รับมันในมือนั้น  หล่อนคิด  โอ้ฉันจะได้กลับไปเล็กลงอีกครั้ง”  หล่อนมองไปรอบๆห้อง  “ฉันรู้สึกพร้อมต่ำกว่าเดิม  ทำอย่างไรให้ฉันหยุดมัน?  ฉันมองพัดลมในมือของฉันและรีบวางมันลง
                ตอนนี้หล่อนเล็กลงเล็กลงมาก  และประตูสวนเล็กๆล็อคอีกครั้ง  และกุญแจสีทองดอกเล็กอยู่บนโต๊ะแล้ว
               
“คือสิ่งที่แย่มาก”  อลิซคิด  หล่อนกลับไปยังประตู  และตกลงไปในน้ำเค็มๆกึ่งคอของเธอ  สิ่งแรกที่เธอคิดคือทะเล  แต่ทันใดนั้นหล่อนเห็นบ่อน้ำตาของหล่อน  เมื่อครั้งที่เธอสูงแค่สามเมตร  โอ้  ฉันร้องไห้ได้มากขนาดนี้เลยหรือ  อลิซพูด  หล่อนว่ายไปรอบๆและมองดูทางออก  แต่สระมันใหญ่โตมาก  ทันใดนั้นหล่อนเห็นสัตว์ใต้น้ำใกล้ๆตัวเธอ  มันดูเหมือนสัตว์ใหญ่  แต่มันเป็นแค่ลูกหนูเท่านั้น
                ฉันจะพูดกับมันได้ไหม  อลิซคิด  ทุกๆสิ่งที่นี้ช่างดูแปลกประหลาดบางทีลูกหนูอาจพูดได้  ดังนั้นเขาจึงเริ่ม  โอ้เจ้าหนูน้อย  เธอรู้ไหมว่าทางออกของสระอยู่ไหน  ฉันรู้สึกเหนื่อยมากกับการว่ายน้ำ  เจ้าหนูน้อย
                เจ้าลูกหนูมองมายังหล่อนด้วยสาตาเล็กๆแต่ไม่พูดอะไร  บางทีมันอาจไม่เข้าใจภาษาอังกฤษก็ได้  “อลิซคิด”  บางทีมันอาจเป็นหนูฝรั่งเศส  ดังนั้นหล่อนจึงเริ่มพูดภาษาฝรั่งเศสกับมัน  แมวของฉันอยู่ที่ไหน  (มันคือประโยคแรก  ในหนังสือภาษาฝรั่งเศสของเขา)
                หนูกระโดดครึ่งตัวจากน้ำและมองที่หล่อนอย่างโกรธเคือง  “โอ้ฉันเสียใจ  ฉันรู้  เธอไม่ชอบแมวใช่ไหม  หนูตะโกนเสียงสูงและโกรธว่า  “มีหนูที่ไหนชอบแมว”  อลิซเริ่มใจเย็น  แต่หนูว่ายน้ำอย่างรวดเร็วออกไป  สุดท้ายหล่อนสามารถหาทางออกจากสระได้และนั่งลงบนพื้น  หล่อนรู้สึกเดียวดายและไม่มีความสุขอย่ามาก  แต่หลังจากนั้นในขณะที่กระต่ายขาวกลับมาอีกครั้ง  จ้องมองถุงมือสีขาวและพัดลมของเขา  โอ้หูของฉันหนวดของฉันเธอจะตัดหัวของฉันออก,ฉันรู้ โอ้  ฉันทิ้งถุงมือไว้ที่ไหน  ทันใดนั้น  เขาได้เห็นอลิซ  ทำไม  แมรี่  แอน  คุณมาทำอะไรที่นี่?  ทำงานบ้านได้ครึ่งเดียวและไปเอาถุงมือกับพัดมา  เร็วเดี๋ยวนี้!
                อลิซรีบออกไป  “แต่บ้านของเขาอยู่ที่ไหน?”  หล่อนคิดในขณะที่วิ่ง  น่าแปลกใจหล่อนไม่ได้อยู่ในห้องยาวๆกับประตูเล็กๆนาน  แต่ในไม้ข้างนอก  เธอวิ่งแต่ไม่สามารถมองเห็นบ้านสักแห่ง  ดังนั้นหล่อนจึงนั่งลงใต้ดอกไม้เพื่อพัก




Conversation  with  cater pillar
สนทนากับ  หนอนผีเสื้อ
                ตอนนี้อลิซพูดกับตัวเธอว่า  สิ่งแรก  คือ  ฉันจะต้องตัวโตให้ได้  สิ่งที่สองฉันต้องหาทางเข้าไปในสวนสวยงามให้ได้  ฉันคิดว่า  มันคงจะเป็นหนทางที่ดี  แต่โอ้ฉันควรจะทำอย่างไร  ให้ฉันตัวใหญ่  บางทีฉันต้องกินหรือดื่มอะไรสักอย่าง  แต่คำถาม  คือ  อะไรล่ะ?
                อลิซมองไปมองไปที่ดอกไม้และต้นไม้รอบๆตัวเธอ  แต่หล่อนไม่เห็นอะไรสักอย่างที่จะกิน  ทันใดนั้นหล่อนมองเห็นเห็ดดอกใหญ่ข้างๆเธอ  มันสูงราวกับเป็น  หล่อนเดินไปรอบๆเพื่อดูมัน  บนยอดของเห็นมีหนอนผีเสื้อตัวโต  ดูดท่ออยู่  หลังจากนั้น  หนอนผีเสื้อเอาท่อออกจากปากของมันแล้วพูดกับ  อลิซ  อย่างช้าๆว่า  “เธอคือใคร?”  ฉันไม่ทราบจริงๆ  อลิซพูด  ฉันรู้ว่าฉันเป็นใคร  เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า  แต่ฉันมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่นั้นมา  ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันเป็นคนที่ดูแตกต่าง  หนอนผีเสื้อพูดว่า  “คุณหมายถึงอะไร  อลิซตอบว่า  “ฉันไม่สามารถอธิบายตัวเองได้  เพราะว่าฉันไม่ใช่ตัวฉัน  คุณรู้ไหม  หนอนผีเสื้อพูดว่า  “ฉันไม่รู้”  อลิซตอบอย่างสุภาพว่า  “เธอคือใคร”
                ตอนนี้พวกเขากลับมายังจุดเริ่มต้นของการสนทนาของพวกเขา  สั่งซื่อไม่ได้มีประโยชน์มาก  อลิซกางแขนเล็กน้อยและเดินออกไป  หนอนผีเสื้อจึงตะโกนว่า  “กลับมา  กลับมา  ฉันมีสิ่งสำคัญที่จะพูดกับเธอ  ดังนั้นอลิซจึงกลับมา  หนอนผีเสื้อพูดว่า  “ไม่ได้ทำให้โกรธ”  อลิซพูดและพยายามไม่โกรธว่า  “แค่นี้หรือ?”  หนอนผีเสื้อพูดว่า  “ไม่”  บางนาที่มันต้องดูดท่อและไม่สามารถพูดได้  แต่สุดท้ายนี้มันเอาท่ออกจากปากแล้วพูดว่า  “เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคุณ  คุณต้องการสูงเท่าไร”  อลิซตอบ  ฉันต้องการจะมีขนาดใหญ่กว่านี้แปดเซนติเมตร  มันเล็กมาก
                ซักพักหนอนผีเสื้อก็ดูดหลอดของมัน  ทันใดนั้นมันก็สั่นตัวเองลงมาจากเห็ด  และคลื่นไปยังพื้นดินอย่างช้าๆ  มันไม่มองกลับหลังมาที่อลิซ  แต่พูดว่า  “ด้านหนึ่งทำให้คุณสูงขึ้น  และด้านหนึ่งทำให้คุณต่ำลง”  “ข้างหนึ่งอะไร”  อลิซคิดกับตัวเอง  หล่อนไม่พูดเสียงดัง  แต่หนอนผีเสื้อพูดว่า  “ของเห็ด”  และทันใดนั้น  มันก็เดินเข้าไปในไม้
               

อลิซมองไปที่เห็นอย่างสุขุม  แต่รอบๆมันไม่มีด้าน  สุดท้ายหล่อนฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ  จากมือแต่ละด้าน  ตรงข้ามกับเห็ด  หล่อนกินบางชิ้น  ในมือข้างซ้าย  และรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น  หนึ่งนาทีต่อมา  หัวของหล่อนสูงขึ้นสูงขึ้น  เข้าไปในไม้ราวกับต้นไม้  และหล่อนมองไปที่ใบไม้สีเขียวที่สั่นไหว  ทันใดนั้นนกก็เริ่มกลัวและเริ่มบินไปรอบๆหัวของหล่อนแล้วส่งเสียงว่า  ขโมยไข่ๆออกไป  อลิซจึงพูดว่า  “ฉันไม่ได้ขโมยไข่”  “โอ๋ ไม่  แต่คุณกินไก่ใช่ไหม!  นกถาม  “ใช่แต่ฉันจะไม่ขโมยพวกเขา”  อลิซพูดอย่างรวดเร็ว  เรามีพวกเขาสำหรับมื้อเช้า”  เธอรู้ไหม  แล้วเธอจะทำอย่างไรกับพวกเขา  ถ้าคุณไม่ขโมยพวกเขา  นกกรีดร้องมันเป็นคำถามที่ยากที่จะตอบ  ดังนั้น  อลิซจึงนำมือข้างขวาและกินชิ้นส่วนเล็กๆของเห็ด  หล่อนเริ่มต่ำลงทันทีและกินจากมือข้างแรกและที่อื่นๆ  และตอนนี้หล่อนก็สูงประมาณ  25  เซนติเมตร  “มันเยี่ยม”  หล่อนพูดกับตัวเอง  “และตอนนี้ฉันต้องหาสวนนั่น  หล่อนเริ่มเดินผ่านป่าและหลังจากนั้นหล่อนก็มาถึงบ้านหลังเล็กๆ












The  Cheshire  Cat
แมกเชสเซียร์
                ที่นั่น  คือ  ผู้ชายอยู่นอกประตู  และจดหมายขนาดใหญ่ในมือของเขา  เขาแต่งตัวเหมือนกับผู้ชายแต่หน้าของเขาเหมือนกับปลา  อลิซคิด  fish-Boy  เกาะประตูและครั้งที่สองแผ่นจดหมายขนาดใหญ่ร่อนออกมาจากหน้าต่างที่เปิดอยู่  เขาตะโกนว่า  “จดหมายสำหรับคุณหญิง”  เขาวางจดหมายไว้ล่างประตูและกลับออกไป  อลิซก็เดินไปที่ประตูและเกาะ  แต่ข้างในเสียงดังมากและไม่มีใครตอบ  ดังนั้นเขาจึงเปิดประตูและเดินเข้าไป  หล่อนพบตัวเองในครัวที่ซึ่งเต็มไปด้วยควัน  ตรงนั้นมีการทำอาหารโดยไฟและตรงกลางของห้องมีคุณหลิงนั่งอยู่  อุ้มทารกที่กำลังร้อง  ทุกๆนาทีจานจะตกไปกองกับมัน  มันคือแมวตัวใหญ่  ลิงซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้และยิ้มจากหูกึงหู             อลิซพูดอย่างสุภาพกับคุณนาย  “ได้โปรดเถอะ  ทำไมแมวของคุณยิ้มแบบนั้น”  คุณนายซึ่งพูดว่า  “มันเป็นแมวเชลเซียร์  ทำไมหรือ?”  อลิซพูดว่า  “ฉันไม่รู้ว่าแมวสามารถยิ้มได้  คุณนายซึ่งตอบว่า  “ดีแล้ว  ที่เธอไม่รู้”  จานตกลงมาแตกที่นั่นอีกใบและอลิซก็กระโดด  คุณนายเดิน  “เธอสามารถอุ้มทารกสักหน่อยได้ไหมถ้าคุณชอบ”  ราชินีชวนฉันไปเล่นเกมกีฬาชนิดหนึ่ง  และฉันต้องไปและพร้อมหล่อนผลักทารกไปในแขนของอลิซ  และรีบออกไปจากห้อง  “โอ้สิ่งเล็กๆที่น่าสงสาร”  อลิซพูด  จ้องมองไปที่ทารก  ซึ่งมีหน้าตาแปลกประหลาด  หล่อนเอามันออกไปในป่าและเดินไปรอบๆใต้ต้นไม้  ทันใดนั้นทารกก็เริ่มทำเสียงดังแปลกๆ  อลิซดูไปที่หน้ามันอีกครั้ง  ตาของมันช่างเล็กมากสำหรับทารก  และจมูกก็ดูเหมือนจมูกของหมูมากๆ  อย่าทำเสียงเหมือนมันนะจ๊ะที่รัก  อลิซพูด  มันไม่สุภาพ  เธอเริ่มเสียงเหมือนกับหมู  แต่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นมันไม่มีอะไรผิดพลาด  มันคือหมู  อลิซวางมันอย่างระวังบนพื้นและมันจึงวิ่งอย่างรวดเร็วด้วยขา  4  ขาของมันเข้าไปในป่า  ยินดีกับมัน  อลิซพูดกับตัวเอง  มันคงจะเป็นหมูที่ดูดี  แต่มันคงจะน่ากลัวถ้าเด็กหน้าเหมือนมัน
                หล่อนคิดเกี่ยวกับหมูและเด็ก  เมื่อหล่อนดูแมวในต้นไม้  แมวก็ยิ้มมาที่หล่อนและหล่อนเข้าไปใกล้ๆมัน  อลิซจึงพูดว่า  “ได้โปรดเถอะคุณบอกฉันได้ไหมว่ามีทางใดที่จะออกไปจากที่นี้
แมว  แต่ที่ไหนที่คุณต้องการจะไป?
อลิซ  มันไม่ได้เรื่องจริงๆ
แมว  มันไม่สำคัญว่าคุณจะไปทางใด
อลิซ  แต่ฉันต้องการไปบางที่
แมว  ถ้าคุณเพิ่งเดินทาง  จุดจบของคุณก็คือไปถึงบางที่  ถูกต้อง  อลิซคิดแต่ไม่มีประโยชน์  ดังนั้นหล่อนพยายามถามอีกคำถามว่า  คนพวกไหนอาศัยอยู่ใกล้ที่นี่
แมว  ด้านว้าย  Hatter อาศัยอยู่  และด้านขวา  March  Hare  อาศัยอยู่  คุณสามารถไปเยี่ยมพวกเขาได้  พวกเขาเป็นบ้าทั้งคู่
อลิซ  แต่ฉันไม่ต้องการไปเยี่ยมคนบ้า
แมว  พวกเราทั้งหมดที่นี้บ้า  เธอรู้ไหม  ฉันเป็นบ้า  เธอก็บ้า
อลิซ  แล้วทำอย่างไรจะรู้ว่าฉันบ้า
แมว  ใช่เธอบ้า  คนบ้าเท่านั้นที่มาที่นี่
                อลิซ  คิดเกี่ยวกับมัน  แต่  แมวก็ออกไป
แมว  :  คุณจะเล่นกีฬากับราชินีไหมวันนี้?
อลิซ  ฉันต้องการเป็นอย่างมาก  แต่ไม่มีใครชวนฉัน
แมว  คุณจะเห็นฉันไปที่นั่นและหายไป
                อลิซรู้สึกไม่ประหลาดใจที่นี่เพราะวันนี้เกิดสิ่งที่แปลกประหลาดมากมาย  หล่อนยืนดูที่ต้นไม้  ทันใดนั้นแมวปรากฏขึ้นอีกครั้ง  และพูดว่าฉันถามเธอว่า  เกิดอะไรขึ้นกับทารก  อลิซจึงตอบว่า  “มันกลับกลายเป็นหมู”  มันไม่น่าประหลาดใจ  แมวพูดและปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง  ออลิซเริ่มเดินไปและตัดสินใจไปเยี่ยม  March  Hare,  ตอนนี้มีเป็นเดือน  พฤษภาคม  หล่อนพูดกับตัวเอง  บางทีพวก  Hare  คงจะไม่บ้าในช่วงมีนาคม  ทันใดนั้นมันเป็นแมวอีกครั้งที่นั่งอยู่บนต้นไม้อีกต้น  อลิซประหลาดใจมากขึ้น  และพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ  “คุณคิดไหม?  ว่าคุณสามารถมาและไปช้า
แมว  ใช่  และเวลาที่มันปรากฏก็ช้ามาก  ครั้งแรกที่หางของมันไป,ลำตัว  หัว  และรอยยิ้ม  ดีเหมือนกับฉันจะได้เป็นแมวที่ไม่มีรอยยิ้มบ่อย  อลิซคิด  แต่ไม่เคยยิ้มนอกเหนือจากแมวในไม่ช้า  หล่อนเห็นบ้านของพวก  March  ltare  อยู่ตรงหน้าของหล่อน  มันเป็นบ้านหลังใหญ่  ดังนั้นหล่อนจึงกินชิ้นเล็กๆของเห็ด  เพื่อจะให้ใหญ่ขึ้นและเดินไป

A  mad  tea-party
งานเลี้ยงน้ำชาวิกลจริต
มีโต๊ะตัวหนึ่งใต้ต้นไม้นอกบ้าน  และกระต่ายกับร่างทำหมวก  กำลังนั่งดื่มน้ำชากันอยู่  มีหนูเดอร์เมาส์นั่งขั้นกลางระหว่างพวกเขา  ซึ่งหลับอยู่  พวกเขาทั้งสามคนนั่งด้วยกันอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะ  แต่โต๊ะมีขนาดใหญ่  และมีหลายที่นั่ง  พวกเขาทั้งสามคนนั่งด้วยกันบนเก้าอี้ตัวใหม่ตัวหนึ่ง  “ดื่มกาแฟสิ”  เจ้ากระต่ายพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร  อลิซมองไปรอบ ๆ โต๊ะ  แต่หล่อนมองเห็นแค่กาน้ำชา  “ฉันไม่เห็นจะมีกาแฟซักหน่อย”  อลิซพูดอย่างฉุนเฉียว  “ก็ไม่มีนะสิ”  กระต่ายพูด  มันช่างไม่สุภาพกับคุณ  “มันชั่งเสียมารยาทที่เธอนั่งลง”    พวกเขายังไม่ได้เชิญคุณให้ร่วมดื่มชา”  กระต่ายพูด  “แต่มันก็มีที่นั่งมากมาย”  อลิซพูด  “โอ้ผมของเธอช่างยาวเหลือกิน  “กระต่ายพูดและจ้องมองอย่างน่าสนใจ  “มันไม่สุภาพที่จะพูดสิ่งนี้”  อลิซพูด  ช่างทำหมวกจ้องมองอย่างประหลาดใจ  แต่เขาพูดว่า  “ทำไม  นกรอบโต๊ะเขียนหนังสือ”                   อลิซยินดี  หล่อนสนุกสนานกับการเล่นเกมคำศัพท์  ดังนั้นหล่อนจึงพูดว่า  “คำถามที่ง่ายมาก”  “คุณหมายถึงอะไร  คุณรู้คำตอบเหรอ ?”  กระต่ายพูด  “ใช่ฉันรู้”  อลิซตอบ  “งั้นก็พูดออกมาว่ามันหมายถึงอะไร”  กระต่ายพูด  “ฉันรู้”  อลิซพูดอย่างรวดเร็ว  ฉันหมายถึงฉันพูดอะไรและมันก็เป็นสิ่งที่เหมือน ๆ กัน,คุณรู้”  “ไม่เหมือน”  ช่างทำหมวกพูด  ฟังนี่น่ะ  ฉันเห็นว่าฉันกิน  หมายถึง  หนังสือแต่ฉันกินสิ่งที่ฉันเห็น  หมายถึง  บางสิ่งซึ่งแตกต่างกันมาก  อลิซไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไร  ดังนั้นหล่อนจึงถือ  ชา  ขนมปังและเนยในขณะที่หล่อนคิดเกี่ยวกับมัน  เจ้าหนูตื่นขึ้นมาหนึ่งนาที  และหลับอีกครั้ง  หลังจากนั้นช่างทำหมวกหันดูนาฬิกาของเขา  เขาดูเศร้า  “สองวันช่างเชื่องช้า”  ฉันบอกเธอเนยนี้ไม่ได้ดีต่อนาฬิกา”  เขาพูดอย่างโกรธเคืองกับกระต่าย  “มันเป็นเนยที่ยอมมากเลยนะ”  กระต่ายพูดอย่างเศร้า  อลิซดูนาฬิกาอย่างสนใจ  “มันดูตลกมาก”  อลิซพูด  มันโชว์วันในแต่ละสัปดาห์  แต่ไม่โชว์เวลา  “แต่ฉันรู้เวลา”  ช่างทำหมวกพูด  “นี่มัน  6  นาฬิกา”  ทันใดนั้นอลิซก็เข้าใจ  นี่มันคือเหตุผลว่าทำไมต้องมีถ้วยและจานพวกนี้  “หล่อนพูด  มันเป็นเวลาพัก  และเธอก็เดินไปรอบ ๆ โต๊ะ  มันถูกแล้ว  แต่เกิดอะไรขึ้น  เมื่อคุณกลับมาสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง
“อย่าถามคำถามเลย”  กระต่ายพูดอย่างฉุนเฉียว  “คุณต้องบอกเรื่องราวกับพวกเราเดี๋ยวนี้”  “แต่ฉันรู้เรื่องราวอะไรเลย”  อลิซพูด  ทันใดนั้นกระต่ายและช่างทำหมวกหันกลับไปที่เจ้าหนู  “ตื่น  เจ้าหนูตื่น!”  พวกเขาตะโกนเสียงดังในหูของมัน  “บอกเรื่องราวกับเรา”  เจ้าหนูตื่นขึ้นมาและเริ่มเล่าเรื่องอย่างรวดเร็ว  แต่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นมันก็หลับเหมือนเดิม
 กระต่ายหยดน้ำชาร้อน ๆ ลงไปบนจมูกของมันและช่างทำหมวกเริ่มมองหาแผ่นทำความสะอาด  อลิซตัดสินใจจากและเดือนออกไปในป่า  และหล่อนมองกลับหลังเห็นกระต่ายและช่างทำหมวกพยายามไล่เจ้าหนูลงไปในกาชา  “ดี”  ฉันจะไม่ไปที่นั้นอีกแล้ว  อลิซพูด  เป็นงานน้ำชาที่งี่เง่ามาก  ทันใดนั้นหล่อนมองที่ประตูบานหนึ่งของต้นไม้  “วิธีอยากรู้อยากเห็น”  หล่อนคิดแต่ทุกสิ่งของวันนี้  ช่างแปลกประหลาด  ฉันคิดว่าฉันจะเข้าไป  ดังนั้นหล่อนจึงเข้าไปกลับไปห้องยาวกับโต๊ะหญ้าเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง  หล่อนเก็บกุญแจสีทองจากโต๊ะขึ้นมา,เพื่อปลดล็อกประตูบานเล็กในสวน  และทันใดนั้นหล่อนเริ่มกินเห็ดอีกชิ้นหนึ่ง  เมื่อหล่อนต่ำลงเหลือประมาณ  30  เซนติเมตร  หล่อนจึงเดินผ่านประตู  และสุดท้ายหล่อนก็เข้าไปในสวนที่สวยงามเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวและดอกไม้ที่เบ่งบานสดใด














The  Queen’s  game  of  croquet
กีฬาโครเกต์ของราชินี
                ใกล้กับประตูมีต้นกุหลาบและคนสวน  3  คน  ผู้ซึ่งดูกังวลกับการดูแลกุหลาบ  “เป็นอะไรหรือเปล่า”  อลิซพูดกับพวกเขา  “ดูซี”  ชาวสวนคนแรกพูด  “กุหลาบเหล่านี้มีแต่สีขาว  แต่ราชินีชอบดอกกุหลาบสีแดงเพียงอย่างเดียว  ทันใดนั้นคนสวนคนที่สองก็พูดขึ้นทันทีว่า  “ราชินี”  เพียงครั้งเดียว  คนสวนทั้ง  3  คน  ก็ลงนอนคล้ำลงกับพื้นดิน  อลิซหันกลับไป  และมองฝูงชนมากมาย  มันคือมัดของใบคำสั่ง  เดินผ่านไปยังสวน  พวกเขาคือทหาร  และมีรูปข้าวหลามตัด  และเด็กเล็ก ๆ 10 คน ( พวกเขาคือหัวใจ )  ถัดมา  คือ  พระราชาและราชินี  ทันใดนั้นอลิซเห็นกระต่ายสีขาวหลังเขา  ก็คือคนพาลของหัวใจ  และสุดท้ายของแถวคือพระราชาและราชินีของหัวใจ  เมื่อฝูงชนมาใกล้กับอลิซ  พวกเขาทั้งหมดหยุดและมองเธอ  และราชินีก็พูดว่า  “เธอคือใคร”  ฉันชื่ออลิซ  เพคะพระองค์”  อลิซพูดอย่างสุภาพ  แต่หล่อนคิดกบัตัวเองว่า  “พวกเขาเป็นแค่ไม่เท่านั้น  ฉันต้องไม่กลัวพวกเขา !”  และคนเหล่านี้คือใคร ? ราชินีพูด  และมองไปยังคนสวนทั้ง  3คน  ทันใดนั้นหล่อนมองเห็นดอกกุหลาบสีขาว  ใบหน้าของเธอกลับกลายเป็นสีแดงและโกรธ  “ใสหัวออกไป”  หล่อนตะคอก  และทหารก็รีบพาคนสวนออกไป  ราชินีหันกลับมาหาอลิซแล้วตะเบ็งถามว่า”   เอเล่นโครเกต์ได้ไหม ?”  “ได้ค่ะ”  อลิซตอบ  “งั้นตามมา”  ราชินีพูด  และอลิซก็ไปกับพวกเขา  อลิซเห็นกระต่ายขาวข้างตัวเธอ  “Duchess อยู่ไหน”  กระต่ายพูดอย่างรวดเร็วว่า  “หล่อนอยู่ในเรือนจำกำลังรอดำเนินทาง”  “เพื่ออะไร  อลิซถาม  แต่ทันใดนั้นราชินีก็ตะเบ็งขึ้นว่า  “ไปยังสถานที่ของคุณ”  และการแข่งขันก็เริ่มขึ้น  โครเกต์เป็นเกมส์ที่แปลกในชีวิตของอลิซ  ลูกบอล  คือ  เม่น  ไม้ตี  คือ  นกฟรามมิงโก้  และห่วงประตูทำด้วยทหารโดยยกตัวเองให้สูงขึ้นแล้วใช้มือกับเท้าตั้งบนดินราวกับห่วง  อลิซจับตัวของนกได้ใต้แขน  แต่นกก็หันคอยาวมาหาเธอและหันกลับ  อลิซพร้อมที่จะตีลูกบอลด้วยหัวของนก  เม่น  รอคอยจนเหนื่อยและเดินไปยังรอบสนาม  และเมื่อนกกับเม่นพร้อม  ห่วงประตูก็หายไปเหล่าทหารก็ลุกขึ้นและเดินออกไป  มันเป็นเกมส์ที่ยาก  อลิซคิด
                ผู้เล่นทุกคนเล่นเวลาที่เหมือนกัน  พวกเขามักจะโต้เถียงและต่อสู้เมื่อตีเม่น  ไม่มีใครเห็นด้วยเกี่ยวกับทุกสิ่ง  ในไม่ช้า  ราชินีก็เริ่มโกรธและตะโกนออกไปว่า  “ใสหัวออกไป”  อลิซเริ่มรู้สึกกังวล  “ราชินีต้องโต้เถียงกับฉันแน่ในไม่ช้า”  อลิซคิด  อะไรจะเกิดก็ช่างมัน  ทันใดนั้นพวกเขาก็ถูกตัดหัว  เมื่อมาถึงเวลานี้ฉันรู้สึกประหลาดใจว่า  ทุกคนยังมีชีวิตอยู่  ทันใดนั้นหล่อนมองบางสิ่งดูแปลกมาก  หล่อนจ้องมองอย่างระมัดระวัง  และ  1.2  นาทีหลังจากนั้นหล่อนเห็นสิ่งที่ยิ้มกว้าง  “มันคือ  แมวเชสเซียร์”  อลิซพูดกับตัวเอง  ตอนนี้ฉันมีเพื่อนคุยแล้ว”  “เป็นไงบ้าง”  เจ้าแมวร้องทันทีเมื่อปากขยับ  อลิซรอ”  ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้”  อลิซคิด  เจ้าแมวปรากฏขึ้นมาแค่หัวของมัน  อลิซจึงเริ่มบอกกับแมวเกี่ยวกับเกมส์  “มันเป็นเกมส์ที่เล่นยากมาก”  หล่อนพูด  “ทุกคนต้องต่อสู้กับเวลา, ประตูห่วงและเม่นที่เดินตลอดเวลา  “เธอชอบราชินีมั้ย”  เจ้าแมวถามเบา ๆ “ไม่ฉันไม่ชอบ”  อลิซตอบ  ทันใดนั้นเธอรู้ว่าราชินีอยู่หลังเธอ  อลิซจึงพูดว่า  “ทรงเก่งจริง ๆ “  ราชินียิ้มและเดินผ่านไป  “เธอกำลังพูดกับใคร”  พระหราพูด  เขามาทางด้านหลังของอลิซและมองมายังหัวของแมวอย่างประหลาดใจ  “มันเป็นเพื่อนของดิฉันค่ะ”  อลิซตอบ  “ฉันไม่แน่ใจว่าฉันชอบมันหรือเปล่า”  พระราชาตรัส  แต่เอาเถอะจะให้มันจับหัวของฉัน  ถ้ามันชอบ  “ไม่ดีกว่า”  แมวพูด   พระราชาจึงพูดขึ้นว่า  “งั้นดี”  เขาจึงเรียกราชินีออกมา  “โอ้ที่รัก  เจ้าแมวอยู่ที่นี่และผมก็ไม่ชอบมัน”  ราชินีจึงตะโกนเรียกคนประหารมา”  “ตัดหัวมัน”  อลิซเริ่มกังวลเล็กน้อย  แต่เมื่อคนประหารมาถึง  ทุก ๆ คนก็เริ่มเถียง  ฉันไม่สามารถตัดหัวมันได้  เพราะมันไม่มีตัว  คนประหารกล่าว  “คุณต้องตัดหัวมันได้”  ราชากล่าว  ถ้าไม่มีใครทำอย่างรวดเร็ว  ฉันจะตัดหัวทุกคน  ราชินีพูด  ทุกคนไม่พอใจกับคำพูดของเธอเป็นอย่างมาก  ดังนั้นทุกคนจึงหันกลับไปหาอลิซ  “คุณพูดอะไร”  พวกเขาตะโกนถาม  “แมวนี่เป็นของ  Duchess”  อลิซพูดอย่างระวัง  บางทีคุณอาจถามเธอเกี่ยวกับมัน  “หล่อนอยู่ในคุก”  ราชินีพูดกับนักประหาร  “นำเธอมานี้”  แต่ทันใดนั้น  หัวของแมวก็ค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆ และเมื่อคนประหารพา  Duchess  มา  ก็พบว่าไม่มีอะไรที่นั่น  พระราชาจึงขึ้นลงอย่างรวดเร็ว  มองไปยังแมว  และ  Duchess  วางแขนของเธอไว้ที่อลิซ                    “ฉันดีใจที่เจอเธออีกครั้งที่รัก”  หล่อนพูด  “เรามาเล่นเกมส์กันต่อเถอะ”  ราชินีพูดอย่างโกรธเคือง  และอลิซก็ตามหลังหล่อนไปยังสนามโครเกต์  แต่เวลาทั้งหมดของราชินีหมด  และตะเบ็งเสียงขึ้นว่า  “เอาหล่อนออกไป”  ในไม่ช้า  ห่วงประตูก็หายไป  เพราะว่าทหารทุกคนถูกพาตัวไปที่คุก  และสุดท้ายก็เหลือผู้เล่นแค่  3  คน  คือ  พระราชาราชินีและอลิซ ราชินีหยุดตะเบ็งและพูดกับอลิซว่า “เธอเคยเห็นเต่าจำลองหรือยัง !
“ไม่ค่ะ”  อลิซพูด  ฉันไม่แน่ใจว่าอะไรคือเต่าจำลอง  “งั้นตามฉันมา”  ราชินีพูด  พวกเขาสร้างเต่าจำลองไว้ใต้ทะเล  ถัดจากมันเป็นสัตว์ประหลาดนกอินทรีนอนหลับกลางแดด  ทันใดนั้นราชินีรีบออกไป  และพูดว่า  “ฉันต้องเริ่มไปทำอะไรบางอย่าง”  สัตว์ประหลาดนกอินทรีตื่นขึ้นมาแล้วพูดกับอลิซอย่างขี้เซาว่า  “มันเป็นเพียงการพูดคุยคุณก็รู้”  พวกเขาไม่เคยไว้ชีวิตใคร”  อลิซก็ยินดีที่ได้ยินเสียงนี้  หล่อนรู้สึกกลัวเต่าจำลองและสัตว์ประหลาดนกอินทรีเล็กน้อย  เพราะว่าพวกเขามีขนาดใหญ่  แต่พวกเขาดูเป็นมิตรมากเลยและร้องเพลง  เล่าเรื่องชีวิตของพวกเขาให้ฟังหลาย ๆ เรื่อง  เต่าจำลองอยู่ในช่วงกลางของเพลงที่แสนเศร้า  และเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงร้องยาวออกไป  “มันคำสั่งเริ่มต้น”  “เข้ามา เราต้องรีบ ! “  สัตว์ประหลาดนกอินทรีตะโกน  มันจับอลิซด้วยมือของมันและรีบออกไป

Who  stole  the  tarts ?
ใครขโมยขนมทาร์ต
                พระราชาและราชินีของหัวใจนั่งอยู่บนบัลลงของพวกเขา  เมื่ออลิซและนกอินทรีมาถึง  พวกเขาก็ชื่นชมฝูงนกและสัตว์และไข่ทั้งหมด  ทหารทั้งหมดชื่นชมและล้อมคนพาลของหัวใจไว้  และใกล้กับพระราชา  คือ  กระต่ายขาว  มือข้างหนึ่งถือทรัมเป็ด  ในตรงกลางของห้องมีโต๊ะตัวใหม่หนึ่งตัวและมีขนมกทาร์ตจานใหญ่วางอยู่  “มันดูดีมาก”  อลิซคิด  หล่อนมีความรู้สึกหิว  ทันใดนั้นกระต่ายขาวก็ตะโกนเสียงดังว่า  “เงียบ !  เจ้าคนพาล  กำลังจะเริ่มทดลองตอนนี้แล้ว”  เขาเอากระดาษชิ้นยาวขึ้นมา  1  แผ่น  และอ่าน 
                ราชินีของหัวใจ  หล่อนทำขนมทาร์ต
                ทุกวันในช่วงฤดูร้อน
                คนพาลของหัวใจ  เขาจะขโมยขนมทาร์ตเหล่านั้น
                และพาพวกมันทั้งหมดออกไป
“ยอดเยี่ยมมาก”  พระราชากล่าว  “เรียกพยานคนแรกมา”  อลิซมองไปยังคณะลูกขุนผู้ซึ่งกำลังเขียนทุกสิ่งทุกอย่าง  มันเป็นคณะลูกขุนที่แลกมาก  ลูกขุนผู้ร้ายเป็นสัตว์และผู้หญิงเป็นนก  ทันใดนั้นกระต่ายขาวก็เป่าทรัมเป็ด  3  ครั้ง  และเรียกพยานคนแรกเข้ามา  พยานคนแรกคือช่างทำหมวก  เขามากับการถือถ้วยชากับมือข้างหนึ่ง  และอีกข้างหนึ่งถือขนมปังทาเนย  “ผมเสียใจเป็นอย่างมาก”  พระบาท  เขาพูด  “ถอดหมวกออก”  พระราชาพูด  “มันไม่ใช่ของผม”  ช่างทำหมวกพูด  “ขโมย”  เขียนลงไป  พระราชาพูดกับลูกขุน  “ฉันเก็บหมวกไว้ขาย  ฉันไม่มีหมวกเป็นของตัวเอง”  คนทำหมวกอธิบาย  “เอาหลักฐานก่อนไป”  พระราชาพูด  ช่างทำหมวกเปลี่ยนสีหน้า  “ฉันเป็นคนจนพระบาท”  เขาเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงสั้น ๆ ทันใดนั้นอลิซเริ่มมีความรู้สึกแปลก  หลังจากนั้น  1.2  นาที  หล่อนเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร  “ไม่ได้ผลักดันเช่นนั้น”  หนูพูด  ผู้ที่ฟังถัดไปจากเธอ  ช่างทำหมวกยังคงให้หลักฐานแต่ไม่มีใครเข้าใจความหมายของมัน  พระราชามองมายังราชินี  ราชินีมองมายังคนประหาร  คนทั้งหมดรู้สึกไม่มีความสุข  และจับขนมปังเนยของเขา  “ฉันเป็นคนชายยากจนพระองค์”  เขาพูดขึ้นอีกครั้ง  “เธอคือคนพูดที่ยากจน”  พระราชาพูด  เขาหันหน้ากับไปยังกระต่ายขาว  “เรียกพยานคนต่อไป”  เขาพูด  พยานคนต่อไป  คอคนครัวของ  Duchess  ผู้ซึ่งพูดอย่างเสียงโกรธและพูดว่า  หล่อนไม่ต้องการให้หลักฐาน  พระราชาดูท่าทางกังวล  และบอกให้กระต่ายขาวเรียกพยานคนต่อไป  กระต่ายขาวมองรายชื่อในกระดาษ  ทันใดนั้นเขาเรียกด้วยเสียงดัง  “อลิซ ! มานี่”  “คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับขนมทาร์ตไหม”  พระราชาถาม  “ไม่ค่ะไม่ทราบ”  อลิซตอบ  ราชินีจ้องมองมาที่อลิซ  ตอนนั้นหล่อนพุดว่า  ทุกคนที่สูง  1  ไมล์ต้องอยู่ในห้องนี้  “ฉันสูงไม่ถึง  1  ไมค์  และไม่ต้องการอยู่ห้องนี้  ฉันต้องการแค่ได้ยิน  แค่คำให้การ”  อลิซพูด  “ไม่มีพยานแล้ว”  พระราชาพูดอย่างรวดเร็ว  “พระองค์  กระต่ายขาวพูดและกระโดดอย่างรวดเร็ว  “พวกเจ้าเพิ่งจะพบจดหมาย  มันไม่มีชื่อผู้เขียนอยู่  แต่ฉันคิดว่า  คนพาลต้องเขียนมัน “ไม่ฉันไม่เขียน”  คนพาลพูดด้วยเสียงดัง  “อ่านมันต่อหน้าทุกคน”  พระราชาพูด  ทุก ๆ คน  ตั้งใจฟังมาก  ในขณะที่กระต่ายขาวอ่าน
หากเขาบอกกับฉันว่า  ได้พบกับเธอ
และพูดถึงฉันกับเธอ
หล่อนคิดว่าฉันเป็นชาวสวน
แต่ฉันไม่สามารถว่ายน้ำได้
เขาบอกกับพวกเราว่าเขายังไม่ได้ไป
เรารู้ว่ามันคือความจริง
ถ้าเธอตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
พวกเขาจะทำอะไรให้คุณ
ฉันให้หนึ่งพวกเขาให้เขาสอง
พวกเขาทั้งหมดหันจากเขาไปหาคุณ
แต่พวกเขาเป็นของฉันมาก่อน
“มันเป็นหลักฐานที่สำคัญชิ้นหนึ่ง”  พระราชาพูด  เขาดูพอใจเป็นอ่ายงมาก  “ถ้าลุกขุนแต่ละคนสามารถอธิบายจดหมายได้”  อลิซพูดตอนนี้หล่อนไม่กลัวอะไร  เพราะหล่อนมีขนาดตัวที่สูงกว่าทุกคนในห้อง  “ฉันจะให้เงินเขา  6  เพนนี”  มันเป็นเรื่องไร้สาระ  มันไม่มีความหมาย”  ลุกขุนก็เขียนข้อความที่อลิซพูดลงไป  “หล่อนคิดว่าทั้งหมดมันเป็นเรื่องไร้สาระ”  “ไร้สาระงั้นเหรอ !  พระราชาพูด  เขาอ่านจดหมายอีกครั้ง  “ฉันว่ายน้ำไม่ได้”  “คุณว่ายน้ำไม่ได้ใช่ไหม ?”  พระราชาพูดกับคนพาล  คนพาลดูสีหน้าเศร้า  “ผมดูเหมือนนักว่ายน้ำมากเหรอ ?”  พระราชาทรงยิ้ม  “ฉันเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว”  พระราชาพูด
 “พวกมันเป็นขนมทาร์ต  แต่ที่นี่คือคนพาลของหัวใจ  และตอนนี้คณะลุกขุนต้องตัดสินใจว่าใครคือขโมย”  ไม่, ไม่  ราชินีพูด  “จดหมายมันหมายถึงอะไร”  “อะไรไร้สาระ”  อลิซพูดเสียงดัง  “ลุกขุนต้องตัดสินใจ”  “เงียบ !”  ราชินีพูดใบหน้าของเธอกลับเป็นสีแดง  “ใสหัวออกไป”  ราชินีกรีดร้อง  แต่ไม่มีใครออกไป  ไม่สำคัญว่าสิ่งที่คุณพูดหมายถึงอะไร  อลิซพูด  เธอก็แค่ไข่หนึ่งใบเท่านั้น  ทันใดนั้นไข่ทั้งหมดปริวขึ้นไปบนท้องฟ้า  และตกลงมาใส่หน้าของอลิซ  เธอแสดงอาการกลัวเล็กน้อย  และตื่นขึ้นมา  หล่อนกำลังนอนติดกับพี่สาวของ  เธอใต้ต้นไม้  และใบไม้ก็หล่นลงมาใส่หน้าของเธอ  “ตื่น ๆ อลิซที่รัก”  พี่สาวพูด  “เธอนอนหลับมานานแล้ว”  “โอ้  ฉันฝันร้ายมันดูเครียดมาก”  อลิซพูด  และหล่อนก็เล่าเรื่องราวความฝัน  การผจญภัยแปลก ๆ ที่วิเศษให้พี่สาวฟัง


วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

learning log 16 นอกห้องเรียนอบรมบ่าย30

สรุปการเข้าอบรม
“เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ”
วันที่  30  ตุลาคม  2558  ( ภาคบ่าย )
กิจกรรมภาคบ่ายเป็นกิจกรรมกลุ่ม  จำลองห้องเรียน  และจัดการเรียนการสอน  โดยจะแบ่งเป็น  2  กิจกรรม  ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ครูสามารถนำไปใช้ในห้องเรียนได้จริง  เป็นการเรียกความสนใจของผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้  แต่การดำเนินกิจกรรมจะต้องคำนึงถึงเวลา  เพราถ้าใช้เวลานานมากเกินไป  อาจทำให้เด็กรู้สึกเบื่อ
กิจกรรมแรก  คือ  การจับคู่แล้วเป่ายิ้งฉุบ  คนที่แพ้จะต้องไปต่อหลังผู้ชนะ  ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีแค่คนเดียวที่เป็นผู้ชนะ  กิจกรรมนี้สามารถสร้างความสนุกให้แก่ผู้ร่วมอบรม  เพราะได้ใช้ทักษะการฟัง  การยืดหยุ่น  และการพูดจากการร้องเพลง
กิจกรรมที่สอง  คือ  ลูกบอลดนตรี  วิทยากรจะเปิดเพลงแล้วผู้เข้าอบรมจะต้องโยนลูกบอลไปให้คนอื่น  และเมื่อเพลงจบ  ลูกบอลอยู่ที่ใดคนนั้นจะต้องออกไปข้างหน้าแล้วช่วยกันแต่งประโยคคนละประโยค  เพื่อเรียงให้เป็นเรื่องราว  จากนั้นเมื่อได้เรื่องแล้ว  ให้จับกลุ่มแล้ววาดภาพจากเรื่องที่แต่งออกไปนำเสนอ  กิจกรรมดังกล่าวมีความสนุกมาก  และผมคิดว่าได้ใช้ทักษะหลายอย่าง  เช่น  การยืดหยุ่นการคิดการแก้ปัญหาและการทำงานเป็นกลุ่ม  ซึ่งกิจกรรมทั้งสองครูสามารถนำกลับไปใช้ประยุกต์ใช้กับเด็กนักเรียนของตัวเองได้จริง
จากการเข้าอบรมสองวันของผม  ผมรู้สึกมีความประทับใจเป็นอย่างมาก  เพราะว่าเป็นการให้ความรู้  เพื่อเตรียมความพร้อมในการนำเอาไปใช้จริง  และทุกเรื่องที่อบรม  คือ  เรื่องที่ครูในสังคมใช้กันจริง ๆ แต่อาจไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์  แต่เมื่อได้เข้าอบรมครั้งนี้  ผมคิดว่าน่าจะเป็นแนวทางเพื่อนำไปพัฒนาการจัดการเรียนรู้ได้ดีขึ้น  และกิจกรรมที่วิทยากรใช้ในการอบรมเป็นกิจกรรมที่ทำให้เด็กได้ใช้    การบูรณาการทักษะจริง ๆ เช่น  การคิดวิเคราะห์ฟังพูด  กิจกรรมครั้งนี้จึงมีประโยชน์ต่อตัวผมมากในความคิดของผม



learning log 15 นอกห้องเรียนอบรมเช้า30

สรุปการเข้าอบรม
“เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ”
วันที่  30  ตุลาคม  2558  ( ภาคเช้า )
วันที่  30  ตุลาคม  2558  เป็นการอบรมอีกครั้ง  และก็เป็นวันสุดท้าย  การเริ่มต้นของการเข้าอบรมในวันนี้จะเป็นการเริ่มต้นด้วย  การเปรียบเทียบความเหมือนต่างของรูปแบบการเรียนการสอน  ทั้งในแบบดั้งเดิมและแบบใหม่  จากการช่วยกันพิจารณาข้อมูลทั้งสองแบบ  สามารถสรุปได้ว่า  การสอนแบบดั้งเดิมยังคงมีข้อดีมากมาย  แต่อย่างไรก็ตาม  ครูควรนำมารวมกับการสอนในรูปแบบใหม่  โดยการใช้สื่อ  IT  เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการห้องเรียน  แต่ต้องดูความเหมาะสม  จากนั้นวิทยากรก็เริ่มเรื่องวิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่  21
ประเด็นแรก  คือ  The  Grammar  Translation  Method    ( การสอนแบบไวยากรณ์และการแปล )  การสอนแบบนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการสอนศาสนา  ไม่เป็นการฟังและการพูด  แต่เป็นการเรียนไวยากรณ์และการแปล  เพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านตำราได้  และการสอนรูปแบบดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านบทเรียนได้อย่างเข้าใจ  เน้นการท่องจำและความถูกต้องในการใช้ภาษา
ประเด็นที่สอง  The  Direct  Method  ( วิธีสอนแบบตรง )  คือ  ควรให้ผู้เรียนได้สื่อสารด้วยภาษาที่ได้เรียน  และเพื่อให้ประสบผลสำเร็จ  ควรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการคิดที่จะใช้ภาษาที่เรียน  และสื่อสารเรื่องราวกับเหตุการณ์จริง  เพื่อให้ผู้เรียนใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารได้  เริ่มจากการสอนระบบเทียบ  ให้ผู้เรียนฝึกเลียนแบบและแยกเสียงให้ถูกต้อง  แล้วให้ผู้เรียนฝึกฟังความหมายในประโยค
ประเด็นที่สาม  The  Audio-lingual  Method  ( วิธีสอนแบบฟัง-พูด )  การเรียนวิธีดังกล่าวควรเริ่มต้นจากการฟัง-พูด  และนำไปสู่การอ่าน-การเขียน  ควรใช้ภาษาที่เป็นภาษาจริงที่เจ้าของภาษาใช้พูดกันจริง  และสามารถเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาด้วย  การสอนแบบนี้เน้นการท่องจำบทสนทนา  การฝึกอ่าน  และการเขียน
การสอนแบบเงียบ  ( The  silent  Way )  เน้นความรู้ความเข้าใจของผู้เรียน  ให้ผู้เรียนคิดเอง  ผู้สอนจะต้องพูดให้น้อยที่สุด  เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะความคิดความเข้าใจที่จะค้นพบกฎเกณฑ์ทางภาษาด้วยตนเอง  ผมคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดี  เพราะจะทำให้เด็กใช้ทักษะการคิดมากประเด็นต่อมา  การสอนตามแนวธรรมชาติ  ( The  Natural  Approach )  ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติโดยไม่มีใครสอน  เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา  เพื่อการสื่อสาร
และวิธีการสอนแบบอื่น ๆ อีกหลายแบบ  คือ  วิธีการสอนแบบชักชวน  ( Suggestopedia )วิธีการสอนตอบสนองด้วยท่าทางการสอนแบบร่วมมือ  ( Cooperative  learning )การเรียนรู้แบบเน้นภาระงาน  ( Task-Based  Learning )การเรียนรู้จากการทำโครงงาน  ( Project-Based  Learning )แนวการสอบภาษาแบบกำหนดสถานการณ์,  แนวการสอบภาษาเพื่อการสื่อสาร,  การสอนที่เน้นสาระการเรียนรู้,  การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ  และสิ่งที่วิทยากรเน้นมากที่สุด  คือ  Flipped  Classroom    
การสอนแบบ  The  Flipped  Classroom  ( ห้องเรียนกลับด้าน )  เป็นวิธีการสอนที่กำลังเป็นที่นิยม  เพราะสอดรีบกับวิธีสร้างการเรียนรู้ในศตวรรษที่  21  คือ  ไม่ต้องการให้ผู้เรียนท่องเก่ง  แต่ต้องการให้ผู้เรียนใฝ่เรียนรู้และรู้วิธีการเรียนรู้  ครูจะต้องสอนแต่สิ่งที่สำคัญ  แล้วให้เด็กสามารถนำไปต่อยอดองค์ความรู้ได้ด้วยตัวเอง  จากที่ครูเคยป้อนข้อมูลให้ทั้งหมด  ครูก็เป็นเพียง  Coach  หรือ  Facillfor  เพื่อฝึกให้เด็กได้ปฏิบัติจริงและเกิดการเรียนรู้แบบ  Active  learning 
จากข้อมูลข้างต้นถือเป็นการสรุปการอบรมในภาคเช้า  เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิชาการ  คือ  การสอนในรูปแบบต่าง ๆ ในศตวรรษที่  21  ซึ่งทั้งที่เป็นที่นิยมมากที่สุด  คือ  Flipped  Classroom  เพื่อต้องการให้เด็กสามารถคิดและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง  เกิดการเรียนรู้แบบ  Active  learning



learning log 14 นอกห้องเรียนอบรมบ่าย29

สรุปการเข้าอบรม
“เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ”
วันที่  29  ตุลาคม  2558  ( ภาคบ่าย )
กิจกรรมการเข้าร่วมอบรมในช่วงภาคบ่ายจะเป็นเนื้อหาเชิงวิชาการ  โดย  ผศ.ดร.ศิตา  เยี่ยมขันติถาวร  โดยในช่วงแรกวิทยากรกลัวว่าผู้เข้าอบรมจะง่วงนอน  จึงมีเกมให้เล่น  คือ  วงคำศัพท์ให้ได้มากที่สุดจากตัวอักษรที่ให้มา  ผู้ที่ได้มากที่สุดจะได้รับของรางวัล  และกล่าวสรุปจากการเล่นเกมว่า  การใช้เกมสามารถเรียกความสนใจกับเด็กได้มาก  และยังเป็นการแข่งขันทำให้เด็กเกิดการกระตุ้น  แต่จะต้องทำในระยะเวลาที่เหมาะสม  หากยาวจนเกินไปจะทำให้ผู้เรียนรู้สึกเบื่อ
ประเด็นต่อมา  คือ  เรื่องการสอนไวยากรณ์และการแปล  ครูส่วนใหญ่จะใช้คำไม่ค่อยเหมาะสมนักมาสอนเด็ก   คำบางคำจะไม่ผิดไวยากรณ์  แต่มักไม่ค่อยนิยมใช้  เพราะบริบทมันไม่ได้  เช่น  ใช้คำว่า  “fat”  คือ  ในการใช้จะต้องใช้กับคนที่อ้วนมาก  แต่บางครั้งก็จะเอาไปใช้กับคนอ้วนไม่มาก  แทนที่จะใช้  overweight  และสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่กับเด็กไทยก็คือ  การไม่รู้คำศัพท์  และการไม่รู้สำนวน  ซึ่งจะเป็นผลต่อการแปลเป็นอย่างมาก  เด็กไทยมักจะแปลสำนวนตรงตัว
เช่นสำนวนที่ว่า  “You  can  pay  with  paper  or  plastic”  คือ  คุณจ่ายด้วยเงินสดหรือบัตรสินเชื่อก็ได้  แต่เด็กไทยมักจะแปลว่า  คุณจ่ายด้วยกระดาษหรือพลาสติก  และการสอนสำนวน  ครูผู้สอนสามารถสอดแทรกวัฒนธรรมเข้าไปร่วมก็ได้  และสิ่งที่ทำให้ฝรั่งงงมากที่สุดสำหรับคนไทย  คือ  การใช้ชื่อยี่ห้อ  แบรนด์  แทนคำศัพท์นั้น  เช่น  Fab,  Mama,  Xerox  เป็นต้น
                ประเด็นต่อมา  คือ  ปัจจัยที่ทำให้ภาษาเปลี่ยนแปลง  คือ 
1.Self-actuallzition
2.Esteem
3.Social  Needs
4.Safty  and  Security
5.Physiological  Needs
6.Wifi
จากปัจจัยที่ทำให้ภาษาเปลี่ยนแปลง  สิ่งสุดท้าย  คือ  Wifi  มันคือ  ตัวการที่สำคัญในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต  เป็นภาษาที่คนมักใช้ในอินเตอร์เน็ต  อาจเป็นเพราะง่าย  สะดวกในการพิมพ์  เช่น  ใส่ตัวย่อ  ใส่ตัวเลข  สะกดผิดบางตัวหายไป  เป็นต้น  ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญ  เพราะจะทำให้ผู้ที่สื่อสารจดจำจนอาจลืมรูปแบบเดิมของคำนั้น  เช่น  Oh  my  God  เป็น  OMG  เป็นต้น
ประเด็นสุดท้ายสำหรับวันนี้  คือ  การสอนเรื่องอวัยวะในการออกเสียงและเสียงแต่ละแบบออกเสียงอย่างไร  ตามสันทอักษร  ซึ่งการดังกล่าวจะเน้นการฝึกออกเสียงมากกว่าการสอนเนื้อหาอาจเป็นเพราะเวลามีจำกัด  และสิ่งที่ได้ในวันนี้  คือ  ความรู้ของการเรียนใน  C21  การอ่านและแปลสำนวน  การเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับบริบท  และได้เกร็ดความรู้และข้อคิด  เพื่อจะได้นำไปประยุกต์ใช้ในต่อไป  กิจกรรมวันนี้เป็นกิจกรรมที่สนุกมากๆ  ไม่น่าเบื่อ  เพราะวิทยากรมี  Interaction  กับผู้เข้ากับรมมาก  และเป็นคนที่สนุก  ทำให้กิจกรรมนี้มีความสนุก










learning log 13 นอกห้องเรียนอบรมเช้า29

สรุปการเข้าอบรม
“เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ”
วันที่  29  ตุลาคม  2558  ( ภาคเช้า )
กิจกรรมการอบรมเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะจัดขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่ครู  นักศึกษา  และผู้ที่สนใจ  เพื่อให้สามารถนำความรู้  เคล็ดลับกลับไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน  โดยมี  ผศ.ดร.  ศิตา  เยี่ยมขันติถาวร  เป็นวิทยากรในการฝึกอบรมครั้งนี้  ซึ่งท่านมีความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี  ในขั้นตอนเปิดการอบรม  ได้รับการกล่าวเปิดงานจาก  อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช  หลังจากนั้นเป็นการเสวนาวิชาการงานวิจัย  หัวข้อ  “Beyond  Language  Learning
จากการเสวนาเรื่อง  Beyond  Language  Learning  โดยมี  ผศ.ดร.  ประกาศิต  สิทธิ์ธิติกุล  เป็นผู้ดำเนินรายการ  และ  ดร.สุจินต์  หนูแก้ว  และอาจารย์สุนทร  บุญแก้ว  เป็นผู้ตอบคำถาม  ซึ่งเป็นการอบรมครั้งแรกที่ผมได้เข้าร่วมฟังการเสวนาทางวิชาการ  และจากเรื่องที่อาจารย์ได้เสวนาผมพอจะเข้าใจ  เพราะในเวลาเรียน  อาจารย์ก็สอนสิ่งต่าง ๆ แทรกมาในบทเรียนตลอด
ประเด็นสำคัญที่อาจารย์สุรินต์  หนูแก้ว  พูด  สามารถสรุปได้ดังนี้  คุณลักษณะที่จำเป็นของคนในศตวรรษที่  21  จะประกอบไปด้วย  7 และความสามารถพื้นฐาน  การอ่าน  การเขียน  และการคำนวณ  ซึ่งทักษะที่คนใน  C21  ใช้มากที่สุด  คือ  ทักษะการอ่าน  เพราะคนในปัจจุบันใช้  smartphone  มากขึ้น  และอ่านข้อมูลจากมัน  แต่ขาดการวิเคราะห์  และความหมายของ  analyzing  การวิเคราะห์  และ  analyzical  thinking  การคิดวิเคราะห์
และอีกประเด็นหนึ่ง  คือ  ความแตกต่างระหว่างการคาดการณ์การคาดคะเน  และการพยากรณ์  การคาดการณ์  คือ  การดูแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  การคาดคะเน  คือ  การคาดหรือการประมาณที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเลข  และการพยากรณ์  คือ  จะต้องมีข้อมูลที่เป็นความจริง  สามารถอ้างอิงได้  และข้อคิดที่สำคัญของอาจารย์  คือ  การฝึกบ่อย ๆ  อาจทำให้เกิด  skills  โดยที่เราอาจไม่รู้ตัว  และควรใช้คำถาม  “Why  how”  เพื่อพัฒนาการคิด
และประเด็นที่สำคัญของอาจารย์สุนทร  บุญแก้ว  สามารถสรุปได้ดังนี้  จะมีวิธีใดที่จะทำให้เด็กมีความพร้อมในการคิด  ประการแรก  คือ  จะต้องทำให้เด็กรู้ว่าเขาเรียนไปเพื่ออะไร  ให้เด็กสามารถตอบตัวเองและเข้าใจตัวเอง  ประการที่สอง  กระบวนการและวิธีการจะนำไปสู่เป้าหมาย  แต่เราจะต้องตั้งเป้าหมายได้อย่างชัดเจน  และประการสุดท้าย  คือ  สภาพแวดล้อม  จะต้องมีความเหมาะสม  ซึ่งจะส่งผลต่อการคิดของเด็ก  และอีกประเด็น  คือ  พูดภาษาอังกฤษ  พูดอย่างไรก็ได้เพื่อให้คนอื่นเข้าใจ  ถึงแม้บางครั้งอาจมีการใช้  local  language  ของแต่ละกลุ่มคน  เช่น  I’m  cool ( la )  ซึ่งจะเป็นภาที่ชาวมาเลเซียมักจะพูดลงท้ายประโยค
หลังจากการเสวนาจบ  และทุกคนรับประทานอาหารว่างเสร็จ  ก็เริ่มเข้าสู่การอบรมอย่างเป็นทางการ  โดย  ผศ.ดร.ศิตา  เยี่ยมขันติถาวร  เรื่อง  การเรียนการสอนใน  C21  การเรียนในยุค  C21  จะต้องมีความเชื่อมโยงกับระบบ  IT  เช่น  สมัยเก่าส่งงานแบบเขียนลงกระดา  แต่ในปัจจุบันก็ปรับเป็นส่งงานทาง  Facebook  แทน  ซึ่งมีความสะดวกและทันสมัย  และการวิวัฒนาการของภาษา  ภาษามีมาใหม่เรื่อย ๆ และเพิ่มขึ้นอยู่อย่างตลอดเวลา  ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือ  เนื้อหาของภาคเช้า
เนื้อหาช่วงเช้าของการอบรมยังไม่ค่อยลงเนื้อหาที่เป็นวิชาการมาก  แต่จะเป็นการเสวนา  พูดคุยเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต  ในศตวรรษที่  21  และการศึกษาในศตวรรษที่  21  ซึ่งเป็นความรู้ที่บางครั้งเราอาจไม่รู้มาก่อน  หรือเป็นการเพิ่มเติมความรู้ที่มีอยู่แล้วให้เพิ่มพูนมากขึ้น