วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

learning log 11 นอกห้องเรียน

Learning  log11  (นอกห้องเรียน)
                จากทฤษฎีที่ว่า  การฝึกซ้ำๆจะทำให้การเขียนและคุ้นชิน  สำหรับตัวผมผมคิดว่า  ทฤษฎีนี้จริง  เพราะเมื่อเราทำอะไรบ่อยๆซ้ำๆจะทำให้เราจดจำ  และทำสิ่งนั้นได้อย่างคุ้นชิน  การใช้ภาษาอังกฤษก็เช่นเดียวกัน  ถ้าเราฝึกพูดฝึกใช้บ่อยๆก็จะเป็นผลดีต่อตัวเรา  ยิ่งฝึกมากยิ่งได้มาก  ไม่ว่าจะเป็นการฝึกทักษะใด  หรือฝึกโดยวิธีใดล้วนแต่ได้ประโยชน์แก่ตัวเราทั้งสิ้น  สำหรับผมผมจะฝึกภาษาทุกอาทิตย์  สำหรับอาทิตย์ที่สามารถฝึกได้ดังนี้
                13  ตุลาคม  2558  ฝึกทักษะการอ่านทางภาษาอังกฤษจากหนังสือเรียนอังกฤษ  จากนิทานสอนใจระดับโลก  เรื่อง  ขุมทรัพย์กับชายสองคน  “The  Treasure  and  the  Two  Men”  จากเรื่องสามารถสรุปได้ดังนี้  มีชายคนหนึ่งฐานะยากจน  ไม่มีอะไรเลยแม้แต่เงินในกระเป๋า  เขาเดินทางไปบ้านร้างหลังหนึ่ง  เมื่อเขาเข้าไป  เขาได้พบกังกองสมบัติที่วางอยู่  เขารีบโกยมันขึ้นมา  และทิ้งเชือกไว้  จากนั้นทรัพย์สมบัติก็หายไป  เขากลับมาจนอีกครั้ง
                จากการอ่านนิทานดังกล่าว  เราได้ข้อคิดว่า  เทวดาฟ้าดินย่อมลงโทษผู้ที่มีความโลก  แต่จะปราณีคนดีที่มีความทุกข์ยาก  และจากนิทานได้ฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ  และเรียนรู้คำศัพท์ที่ยากเพราะคำศัพท์ที่สำคัญจะมีตัวหนังสือสีดำหนาอยู่  และจะมีคำแปลและบริบทตัวอย่างให้จากเรื่อง  เช่น  ruin  ous  (adj)  ซึ่งปรักหักพัง  He  proceeded  to  a  ruin  ous  house.
                14  ตุลาคม  2558  ฝึกภาษาอังกฤษจากหนังสือเรียนภาษาอังกฤษจากนิทานสอนใจระดับโลก  เรื่องหนูกับหอย  The  Rat  and  the  Oyster  สามารถสรุปได้ดังนี้  หนูตัวหนึ่งได้อาศัยอยู่ในทุ่งนา  มันออกเดินทางไปดูโลก  จากนั้นไม่กี่วัน  นักเดินทางก็ไปถึงที่แห่งหนึ่ง  มีคลื่นซัดเอาหอยมาจำนวนมาก  หอยทุกตัวอ้าเปลือกออกแล้วปิด  และมีตัวหนึ่งที่ไม่ยอมปิด  อีกทั้งยังมีกลิ่นหอม  เจ้าหนูคิดว่าสิ่งนี้ต้องกินได้  และเมื่อมันอ้าปากเข้าไปก็เหมือนกับถูกกับดักหนู  เพราะหอยมันหนีบกะทันหัน  ทำให้หนีหนูได้
                จากนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับโลกย่อมมีความฉงนต่อสิ่งจิปาถะทุกอย่าง  those  who  are  unacquainted  with  the  world  are  astonished  at  every  trifle.  และนอกเหนือจากคำสอน  ได้เรียนรู้คำศัพท์ที่ยากและมีความหมายและตัวอย่างประโยค  เช่น  desert  (r)  ละทิ้งไป  เช่น  One  day  the  rat  deserted  his  hole. 
                15  ตุลาคม  2558  ฝึกภาษาอังกฤษจากหนังสือเรียนภาษาอังกฤษจากนิทานสอนใจระดับโลก  สามารถสรุปได้ว่า  มีเด็กชายคนหนึ่งเล่นอยู่กับเจ้างูเชื่องแล้วพูดว่า  เราไม่น่าสนิทกับเจ้ามากนักเพราะเจ้ามีพิษร้ายเหมือนกับชาวนากับงูเห่า  เจ้างูเลยพูดขึ้นว่า  คนบ้านนอกคิดว่ามันได้ตายแล้วด้วยลวดลายที่สวยงามจึงจะถลกเอาหนังของเราไป  เราจึงป้องกัน  ไม่ได้เนรคุณ
                จากนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  คนใจบุญที่แท้จริง  ย่อมช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน  แต่คนใจบุญที่ช่วยเหลือผู้อื่นและแฝงไว้ซึ่งความเห็นแก่ตัว  เขาย่อมจะไม่ได้การขอบคุณอย่างจริงใจ  ผมคิดว่านิทานเรื่องนี้น่าจะนำไปสอนให้เด็กอ่านและศึกษา  เพราะเด็กจะชอบอ่านนิทานหรือฟังนิทาน  และจะเป็นการเสริมทักษะถ้าเราใช้นิทานทำเป็นภาษาอังกฤษ  และจากข้อคิดสามารถให้เด็กเกิดความตระหนักรู้และจดจำเพื่อนำไปใช้ได้
                16  ตุลาคม  2558  ศึกษาภาษาอังกฤษ  จาก  www.youtube.com  เพลง  Cinderella  ของ  TaTayoung  ซึ่งเป็นเพลงของคนไทยที่ร้องเพลงสากลได้ไพเราะมาก  และด้วยทำนองและจังหวะที่เร้าใจทำให้ผมชอบเพลงนี้มาก  จากบทเพลงสามารถสรุปได้ดังนี้  เมื่อฉันเป็นเด็กแม่เล่าเรื่องเจ้าหญิงผู้น่าสงสารแค่นั้นก็นอนเสมอ  และฉันนอนคิดว่าเทพนิยายนี้ไม่เหมาะกับฉัน  เพราะฉันไม่อยากเป็น  Cinderella  ที่รอให้คนอื่นมาช่วย  เพราะฉันสามารถช่วยตัวเองได้
                จากบทเพลงเราได้ฝึกทักษะการฟังและการอ่านจากการเปิด  lyric  ซึ่งจะได้รูปแบบประโยคคำศัพท์และคำที่ตามหลังคำต่างๆ  เช่น  ตามหลัง  Can   ต้องเป็นกริยาช่อง  1  และได้ความเพลิดเพลินและอีกอย่าง  ถ้าเราฟังเพลงแล้วแปล  ขณะเราเปลแล้วกลับมาคิดตามย้อนหลังเราจะได้ข้อคิดดีๆ  เมื่อนำไปใช้  จากเพลงนี้ผมได้ข้อคิดว่า  “เราไม่ต้องรอให้ใครมาช่วย  เพราเราสามารถช่วยตัวเองได้”
                17  ตุลาคม  2558  ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนว่าการฝึกทักษะวันนี้เป็นการฝึกแบบไม่ได้ตั้งใจ  แต่เป็นการฝึกสนุกของผมเองจากการหิว  ผมบอกให้แม่ซื้อเส้นสปาเก็ตตี้มา  แต่แม่ผมซื้อเส้นผิดได้เส้นมะกะโรนีมาแทน  ผมไม่เคยทำมาก่อนเลยเปิด  youtube  ดูวิธีการทำ  เลยคิดว่าน่าจะเอาวิดีโอจากเจ้าของอาหารเลย  ก็เลยเปิดวิดีโอภาษาอังกฤษขึ้นมาและทำตามเป็นมะกะโรนีกุ้ง
                จากขั้นตอนการทำสามารถทำได้ดังนี้  1.ตั้งกระทะให้ร้อนแล้วใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย  ใส่กุ้ง  หอมใหญ่  มะเขือเทศ  แครอท  และพริกหวานลงไป  ผัดให้สุก  แล้วใส่มะกะโรนีที่ต้มสุกแล้วลงไปผัด  ปรุงรสด้วยน้ำตาล  น้ำปลา  ซอสมะเขือเทศ  ผัดให้เข้ากัน  แล้วใส่ไข่  รอจนไข่สุกก็เสร็จ  รสชาติอาจเพิ่มเติมแล้วแต่เราต้องการ  ผมชอบรสชาติเผ็ดเลยเติมพริกไทยและพริกขี้หนูลงไปด้วย
                จากการลงมือทำมะกะโรนีกุ้งโดยใช้  youtube  เป็นตัวช่วยและดูวิธีทำเป็นภาษาอังกฤษ  ผมคิดว่ามันเหมือนกับเราทำสื่อดูฝรั่งทำอาหารชนิดนั่นเอง  จากวิดีโอดังกล่าวเราสามารถฝึกทักษะการฟังจากวิดีโอและการเดาคำจากบริบทจากภาพ  เป็นการฝึกภาษาอังกฤษที่สนุกมากๆและสามารถนำไปใช้ได้จริง
                18  ตุลาคม  2558  ฝึกภาษาอังกฤษจากหนังสือเรียนอังกฤษจากนิทานสอนใจระดับโลก  เรื่อง  นกติดตาข่าย  The  Birds  in  the  Snare  สามารถสรุปได้ว่า  นายพรานผู้หนึ่งวางตาข่ายดักนกไว้ที่ริมทะเลสาบ  มีนกหลายตัวติดอยู่ในตาข่าย  นกเหล่านั้นใช้เท้าจับตาข่ายไว้แล้วบินไปพร้อมกัน  แต่เมื่อเวลาตกเย็น  นกทุกตัวก็ต่างพยายามบินไปคนละทิศทาง  เมื่อบินไปยังถิ่นของมันจนตกลงมาสู่พื้นดิน  จนถูกนายพรานจับ
                จากนิทานดังกล่าวสอนให้เรารู้ว่า  “สามัคคี  คือพลัง”  และได้คำศัพท์และประโยค  และคำที่ตามหลังกัน  เช่น  ตามหลัง  shall  จะเป็น  verb  ช่อง  1  และความหมายคำศัพท์และบริบทที่ใช้คำศัพท์นั้น  เช่น  snare  :  set  a  snare  by  the  lake
                19  ตุลาคม  2558  เรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการดูวิดีโอจาก  www.youtube  “ฝรั่งสอนชะนีไทย”  ภาษาอังกฤษบริบท  VS  อเมริกัน  ภาษาอังกฤษที่เราใช้มักจะมี  2  แบบ  คือ  British  และ  American  ส่วนใหญ่ความแตกต่างของคำศัพท์ระหว่าง  2  แบบนี้จะแตกต่างกันไม่มาก  แต่คนไทยและคนทั่วไปมักจะใช้ที่เป็น  American  มากกว่า  เช่น  Truck  of  Lorry,  Stove  or  cooker  candy  or  sweets,  Autumn  or  Fall  เป็นต้น
                จากการดูวิดีโอดังกล่าวสามารถบอกเราได้ว่าบางครั้งเราใช้ภาษาอังกฤษทั้ง  2  แบบร่วมกัน  แต่ส่วนมากมักจะใช้แบบ  American  สำหรับผมผมคิดว่าผมชอบใช้แบบ  American  มากกว่า  เพราะแบบ  British  ฟังยากและออกเสียงยากมากสำหรับผม  และผมก็คิดว่าหลายคนคิดเหมือนผม  และสิ่งที่ได้  คือ  คำศัพท์ทั้งสองแบบและใช้แทนกันได้  เพราะสื่อสิ่งเดียวกัน
                จากการฝึกอาทิตย์นี้ของผมส่วนใหญ่จะเป็นการฝึกจากการอ่านมาก  แต่ไม่ว่าจะฝึกทักษะใด  เราก็ได้ประโยชน์  ยิ่งฝึกมากยิ่งได้มาก  เพราะภาษาอังกฤษยิ่งใช้มากยิ่งรู้มาก  ดังนั้นการที่เราจะทำตัวเองให้ฝึกได้ทุกวันเราต้องปรับตัวเองและยอมรับว่าอยากฝึกจริงๆ  เพราะถ้าเรายอมเปิดใจแค่การเราเอาศัพท์ภาษาอังกฤษมาใช้ร่วมกับไทยก็เท่ากับเราฝึกแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น